หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดในการศัลยกรรมจมูกนั่น คือ การยืดจมูก ใช่แล้วค่ะ! เรากำลังพูดถึงการศัลยกรรมแก้ไขจมูกสั้นนั่นเอง
การแก้ไขจมูกที่สั้นไม่ได้สัดส่วน เป็นศัลยกรรมที่ยากและท้าทาย ในขณะที่หลายๆคนกำลังรอคิวผ่าตัดอยู่นั้น บางคนก็กำลังสงสัยว่าตัวเองมีจมูกที่สั้นหรือไม่ วันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับการศัลยกรรมจมูกสั้นกันค่ะ !
ฉันมีจมูกสั้นหรือไม่?
ตามหลักการแล้ว ความยาวของจมูกคือหนึ่งในสามของความยาวใบหน้า หากมีความยาวที่สั้นกว่านั้น ทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วน ยิ่งไปกว่านั้นจมูกที่สั้นเกินไปจะทำให้มองเห็นรูจมูกมากมากกว่าปกติ เมื่อมองจากหน้าตรง (เรียกอีกอย่างว่าจมูกเชิด) ซึ่งเกิดจากมุมระหว่างจมูกและปากที่มากกว่าปกติ (ปกติอยู่ที่ประมาณ 95-105°)
ฉันควรผ่าตัดแก้ไขหรือไม่?
การศัลยกรรมยืดจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้:
- จมูกสั้น เนื่องจากการผ่าตัดครั้งก่อนหน้า
- columella หดตัวอย่างรุนแรง
- การสูญเสียกระดูกอ่อนส่วนหน้ามากเกินไป ทำให้ไม่สามารถรองรับปลายจมูกได้ดี
- การผ่าตัดกระดูกอ่อนโพรงจมูกออกมากเกินไป ทำให้เกิด ‘จมูกหมู’ หรือพูดง่ายๆก็คือ จมูกเชิดขึ้น
เทคนิคการแก้ไขที่พบบ่อย ในการผ่าตักแก้ไขจมูกสั้นและการมองเห็นรูจมูกมากเกินไป
1. การจัดเรียงกระดูกอ่อนจมูก
เทคนิคนี้เป็นการยืดความยาวของจมูก โดยการปรับตำแหน่งใหม่ของกระดูกอ่อนภายในจมูก ด้วยการเย็บแบบพิเศษ
2. ยืดผนังกั้นจมูก (Septal extension graft)
เทคนิคการยืดผนังกั้นโพรงจมูก ด้วยกระดูกอ่อนโพรงจมูก, กระดูกอ่อนหู, กระดูกอ่อนซี่โครง หรือกระดูกอ่อนซี่โครงบริจาค
3. ยืดปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหู
เทคนิคการยืดบริเวณปลายจมูกด้วย conchal cartilages หรือกระดูกอ่อนหู
4. Derotation graft
เทคนิคนี้เป็นวิธีหนึ่งในการยิดและคงตำแหน่งของกระดูกอ่อนในเวลาเดียวกัน โดยใช้กระดูกอ่อนหู ทำหน้าที่เป็นเหมือนกันชนระหว่างกระดูกอ่อนปลายจมูกและผนังกั้นโพรงจมูก ทำให้ปลายจมูกนิ่มและยาวมากขึ้น
5. Hybrid septal graft
เทคนิคผสมผสานระหว่างวิธีการด้านบน
ผ่าตัดด้วยเทคนิคใดดี ระหว่าง Septal Extension Graft หรือ Derotation graft ?
เทคนิค septal extension และ de-rotation grafts เป็นเทคนิคที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม และได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะในประเทศเกาหลี เนื่องจากชาวเอเชียส่วนใหญ่มีผิวที่ค่อนข้างหนา และมีกระดูกอ่อนปลายจมูกที่ไม่ค่อยแข็งแรง
การยืดจมูกนั้น จำเป็นต้องใช้กระดูกอ่อนที่มีความยาวและกว้างพอสมควร ซึ่งในบางครั้งก็ไม่มีกระดูกอ่อนโพรงจมูกที่สามารถใช้ได้ เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคล หรือการผ่าตัดครั้งก่อนหน้า ในกรณีนี้จะมีการใช้กระดูกอ่อนจากบริเวณอื่น คือ กระดูกอ่อนหู, กระดูกอ่อนซีโครง หรือ วัสดุเสริมภายนอกอื่นๆ
ข้อดีและข้อเสีย
ในขณะที่เราคำนึงถึงข้อดีและข้อเสียในการผ่าตัด ปัจจัยหนึ่งที่กำหนดความสำเร็จของการผ่าตัดอีกอย่างหนึ่งคือ การเลือกศัลยแพทย์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีทักษะและประสบการณ์ ที่ผ่านการรับรอง จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังผ่าตัดนั้นมีประสิทธิภาพ
กลับมาพูดคุยถึงข้อดีข้อเสียกันต่อ การศัลยกรรมแก้ไขจมูกสั้นส่วนใหญ่มักดำเนินการในเคสชาวเอเชีย เนื่องจากส่วนใหญ่มีผิวที่หนา และกระดูกอ่อนจมูกไม่แข็งแรง โดยข้อเสียของการดำเนินการด้วยเทคนิค septal extension graft มีดังต่อไปนี้
- ปลายจมูกแข็ง เนื่องจากการแก้ไขยึดกระดูกอ่อนปลายจมูกเพื่อยืดผนังกั้นจมูก
- ผู้ที่มีประวัติเคยใช้กระดูกอ่อนโพรงจมูกหรือกระดูกอ่อนใบหูในการยืดจมูกมาก่อน อาจต้องใช้กระดูกอ่อนซี่โครงในการผ่าตัด ซึ่งจะทิ้งรอยแผลเป็นบริเวณหน้าอก
- อาจมีการรวมตัวกันของกระดูกอ่อนด้านข้างปีกจมูก (lateral crus) ทำให้ปลายจมูกแหลมและกระดูกอ่อนปลายจมูกหดตัวลง
เทคนิค septal extension graft เป็นเทคนิคสำหรับเพิ่มความยาวของปลายจมูกและยืดปลาย รวมถึงปรับแต่งมุมปลายจมูก แต่ข้อจำกัด คือ อาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติและปลายจมูกแข็ง โดยมักเกิดในผู้ที่เคยผ่าตัดมาก่อนและจมูกหดสั้นขึ้น ซึ่งในเคสเหล่านี้จะใช้เทคนิค derotation graft ในการดำเนินการเพื่อแก้ไข
- แก้ไขจมูกสั้น
- ลดความแข็งของปลายจมูก หลังผ่าตัด
โรงพยาบาล JW มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจมูก ซึ่งมีทักษะและประสบการณ์ที่หลากหลาย ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นไปทางเทคนิคศัลยกรรมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความเหมาะสม เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้ป่วย