ผู้คนส่วนใหญ่มักสับสน หรือ มีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ วันนี้เราจะมาไขความกระจ่างให้คุณค่ะ
โบท็อกซ์ (Botox)
Botox หรือ Botulinum Toxin เป็นโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรีย ถูกใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาสภาพกล้ามเนื้อ และป้องกันริ้วรอย โดยสารนี้จะลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อ การแสดงสีหน้าลดลง
โบท็อกซ์มักจะถูกฉีดบริเวณที่มีริ้วรอย ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ระหว่างคิ้ว, หางตา, หน้าผาก เป็นต้น หรือใช้เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ ในบางพื้นที่ เช่น บริเวณกราม เพื่อสร้างวีไลน์
นอกจากนี้ยังสามารถฉีดโบท็อกซ์เพื่อผิวที่ใสขึ้น หรือ ที่เรียกว่า Skin Botox ซึ่งจะฉีดเข้าไปบริเวณผิวหนังชั้นนอก แทนกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวสดใสและชุ่มชื้นขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่ดาราเกาหลี อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของมันอยู่ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
ข้อควรทราบ หลังการฉีดโบท็อกซ์
- หลังการฉีดโบท็อกซ์ อาจเกิดรอยช้ำจากเข็มได้ เนื่องจากใต้ผิวหนังเรานั้นมีเส้นเลือดอยู่จำนวนมาก อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้จะมีไม่มาก และจะหายไปภายใน 3 – 7 วัน
- อาจลืมตาได้ยากขึ้น หลังจากการฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผาก หรือ ระหว่างคิ้วได้ เนื่องจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ดังนั้นควรล้างหน้าเบาๆและระมัดระวังอย่าขยี้ตา
- อาจรู้สึกหนักบริเวณตา หลังจากฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก หากคุณมักใช้กล้ามเนื้อหน้าผากในการลืมตา
- ใน 2 – 3 สัปดาห์แรกหลังการฉีดโบท็อกซ์รอบดวงตา คุณอาจรู้สึกแปลกๆ โดยเฉพาะเวลายิ้ม แต่สิ่งเหล่านี้จะเป็นปกติ เมื่อเวลาผ่านไป
- หากคุณฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม อาจรู้สึกไม่สบาย หรือ เคี้ยวอาหารแข็งลำบาก แต่คุณจะปรับตัวได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
ฟิลเลอร์ (Filler)
ฟิลเลอร์ มีอยู่หลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุด คือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด โดยฉีดเพื่อเติมเต็มผิวส่วนต่างๆที่ต้องการ เช่น ใต้ตา, ร่องแก้ม หรือ เพิ่มความสูงดั้งจมูก, วอลลุ่มให้ริมฝีปาก เป็นต้น ผลลัพธ์นั้น คงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
ข้อควรทราบ หลังการฉีดฟิลเลอร์
- หลังการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือ ปวดเกิดขึ้นบริเวณที่ฉีดทันที ซึ่งจะหายไปในไม่กี่ชั่วโมง หรือบางครั้งอาจใช้เวลา 2 – 3 วัน
- หากมีอาการปวดรุนแรงเกิดขึ้น ภายใน 2 – 3 ชั่วโมง หลังฉีด หรือผิวบริเวณระหว่างคิ้ว, ร่องแก้มเปลี่ยนสี ให้รีบกลับไปที่คลีนิคเพื่อรับการตรวจ
- หากยังมีอาการปวดหรือบวม หลังจากผ่านไป 2 – 3 วัน ให้ปรึกษาแพทย์ทันที
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 2 – 3 วัน
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบมากขึ้น
ประโยชน์และความเสี่ยงของโบท็อกซ์และฟิลเลอร์
ทั้งโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย ก่อนอื่นต้องจำไว้ว่าควรดำเนินการโดยแพทย์ผิวหนัง หรือศัลยแพทย์พลาสติคผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ และการเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
คลิกที่นี่ เพื่อปรึกษาออนไลน์ หรือ แอดไลน์ @jwthailand
อ้างอิง
Skin Botox: Korean injectable technique for a glass skin, in: Allure.com; https://www.allure.com/story/skin-botox-korean-injectable-technique-glass-skin
Oxford Academic, Aesthetic Surgery Journal: A Review of OnabotulinumtoxinA, https://academic.oup.com/asj/article/33/1_Supplement/9S/211819
Oxford Academic, Aesthetic Surgery Journal: OnabotulinumtoxinA and Hyaluronic Acid in Facial Wrinkles and Folds: A Prospective, Open-Label Comparison, https://academic.oup.com/asj/article/39/2/187/4995056