ปรึกษาออนไลน์

วิธีเลือกโรงพยาบาลศัลยกรรมที่น่าเชื่อถือ ในเกาหลี

4 เคล็ดลับในการเลือกโรงพยาบาลที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจมาทำศัลยกรรมที่เกาหลี

ในฐานะที่ปรึกษาผู้ป่วยต่างชาติที่โรงพยาบาล JW มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะพบผู้ป่วยต่างชาติเข้ามาปรึกษาและทำศัลยกรรมที่เกาหลี ซึ่งการทำศัลยกรรมถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ผู้ป่วยจะเข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงในหลายๆโรงพยาบาล เพื่อเปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามประเทศเกาหลีที่ถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการศัลยกรรมนั้น มีคลีนิคและโรงพยาบาลศัลยกรรมจำนวนมาก และในแต่ละที่มีการแข่งขันกัน เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ป่วยเลือกทำศัลยกรรมกับสถานพยาบาลของตน รวมทั้งปรับปรุงและพัฒนาทั้งการตกแต่งภายในที่ดูหรูหรา, ราคาที่ถูก หรือการตลาดเชิงรุก ซึ่งทำให้ผู้ซื้อบริการสับสนมากขึ้น และอาจนำไปสู่การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดกับสถานพยาบาลที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่ปลอดภัย ในที่สุดอาจจบลงด้วยการแก้ไข ซึ่งราคาแพงมากขึ้นกว่า 2 เท่าตัว

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเลือกสถานพยาบาลที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ และเหมาะสมกับตนเองได้

ที่โรงพยาบาล JW เรายึดถือความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอันดับหนึ่ง และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงวิธีการที่เราสามารถทำให้ผู้ป่วยของเราพึงพอใจ ในขณะที่ยังคงความปลอดภัยในขณะดำเนินการ รวมถึงเคล็ดลับในการเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือในเกาหลี เหมือนกับโรงพยาบาลของเรา

ระยะเวลาให้คำปรึกษาและตารางผ่าตัดที่แน่นอน

โดยปกติทั่วไปแล้ว คนทำงานทุกคนมีชั่วโมงทำงานต่อวันที่แน่นอน เฉลี่ย 8 – 9 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งหากอิงจากข้อความนี้ คุณควรพิจารณาต่อไปนี้:

  • หากสถานพยาบาลพร้อมให้บริการปรึกษาตลอดทั้งวัน
  • หากแพทย์ที่มีชื่อเสียงในสถานพยาบาลนั้น สามารถพบคุณได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการ
  • หากคุณสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ตลอดเวลา แม้จะแจ้งให้ทราบในระยะเวลาสั้นๆ

สิ่งเหล่านี้อาจบ่งบอกได้ว่าสถานพยาบาลนั้น อาจไม่มีผู้ป่วยใช้บริการ หรืออาจมีการใช้ shadow doctors (หมอที่ทำการปรึกษาและผ่าตัดเป็นคนละคนกัน) อีกนัยหนึ่งคือสถานพยาบาลนี้อาจมีปัญหา และคุณควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการที่นี่

ยกตัวอย่าง เช่น การผ่าตัดทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2~5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัด ซึ่งหากเราพิจารณาจากชั่วโมงการทำงานปกติ แพทย์สามารถผ่าตัดได้เพียง 2~3 ต่อวันเท่านั้น(แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัด) ดังนั้นตารางผ่าตัดของศัลยแพทย์ที่เป็นที่นิยม มักจะถูกจองล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน และจะมีเวลาสำหรับการให้คำปรึกษาในช่วงก่อนและหลังผ่าตัดเท่านั้น

เพราะฉะนั้นเราสามารถคาดคะเนได้ว่า การให้คำปรึกษาสามารถทำได้ในช่วงเวลาต่อไปนี้:

  • ช่วงเช้า (ก่อนเข้าผ่าตัดเคสแรก)
  • ช่วงบ่าย (หลังจากผ่าตัดเคสแรกเสร็จ และรอเข้าผ่าตัดเคสถัดไป)
  • 30 นาที~1 ชั่วโมง ก่อนปิดทำการ (หลังผ่าตัดเคสที่สองของวัน)

แน่นอนว่าตารางตามด้านบนนี้จะไม่แน่นอนเสมอไป เราจำเป็นต้องพิจารณาถึงระบบการทำงานในแต่ละโรงพยาบาล รวมถึงการยกเลิกการผ่าตัดกระทันหัน แต่โดยปกติแล้วหากสถานพยาบาลนั้นพร้อมให้คำปรึกษาตลอดเวลา โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า คุณควรระวังสถานพยาบาลเหล่านั้นไว้

จดหมายขอบคุณจากผู้ป่วย ที่ใช้บริการโรงพยาบาล JW

ทีมศัลยกรรมโรงพยาบาล JW ประกอบไปด้วยศัลยแพทย์อาวุโส ที่มีประสบการณ์อย่างน้อย 10~20 ปี และยังจำกัดจำนวนเคสผ่าตัด เพียง 2~3 เคสต่อวันเท่านั้น สำหรับแพทย์แต่ละท่าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการผ่าตัดและความพึงพอใจของผู้ป่วย ผ่านระบบแพทย์เฉพาะทาง และแพทย์ที่ให้คำปรึกษาจะเป็นแพทย์ที่ดำเนินการผ่าตัด รวมถึงดูแลหลังการผ่าตัดอีกด้วย

ทำให้โรงพยาบาล JW ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุทางการแพทย์และการฟ้องร้องดำเนินคดี ตั้งแต่เปิดทำการมาเมื่อ 19 ปีที่แล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคิวผ่าตัดส่วนใหญ่ถึงเต็มล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน และเราแนะนำให้ผู้ป่วยทำการจองการผ่าตัดก่อนเดินทางมาถึงเกาหลี หากผู้ป่วยมีแผนที่จะอยู่เกาหลีในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 1 หรือ 2 สัปดาห์

ศัลยแพทย์ได้รับการรับรองหรือไม่?

เราสามารถพบเห็นหมอศัลยกรรมมากมาย ที่จบการศึกษาในเอกโสตศอนาสิกวิทยา, อายุรศาสตร์, ศัลยกรรมทรวงอก และแม้แต่แพทย์ผิวหนัง ได้เปิดคลีนิคศัลยกรรมและดำเนินการผ่าตัด โดยปกติแพทย์เหล่านี้จะเปิดคลินิก หลังจากเคยทำงานที่คลินิกศัลยกรรมตกแต่งและเรียนรู้จากศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการรับรอง ซึ่งแพทย์เหล่านี้มักขาดประสบการณ์และความสามารถในการผ่าตัดเคสที่มีความยาก หรือไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้

ตัวอย่างเช่น การทำศัลยกรรมตกแต่งนั้น แตกต่างจากการผ่าตัดรักษามะเร็ง การผ่าตัดมะเร็งนั้น ประสบความสำเร็จเมื่อสามารถกำจัดก้อนเนื้อออกไปได้ แต่การศัลยกรรมที่ประสบผลสำเร็จนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงความสมดุล, การใช้งาน, แผลเป็น และการออกแบบ รูปร่างตามที่ผู้ป่วยต้องการ ซึ่งจะเห็นความแตกต่างของแผลเป็นได้อย่างชัดเจนระหว่างศัลยแพทย์ที่ได้รับการรับรอง ที่เย็บแผลด้วยเทคนิควิธีการที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และแพทย์ทั่วไปที่เย็บแผลเพียงเพื่อให้การผ่าตัดเสร็จสิ้น

ฉันได้ยินคำถามจากผู้ป่วยอยู่บ่อยๆว่า “ฉันควรศัลยกรรมจมูกกับหมอ ENT หรือไม่? เพราะฉันต้องการแก้ไขทั้งปัญหาความงามและการใช้งาน (functional) ในเวลาเดียวกัน” คำตอบ คือ ปัญหาการทำงานบางอย่างที่ต้องผ่าตัด สามารถแก้ไขได้ด้วยอุปกรณ์และเทคนิคบางอย่างระหว่างการผ่าตัด อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการผ่าตัดแก้ไขด้านความงามในคราวเดียวกัน จะเป็นการดีกว่าหากดำเนินการผ่าตัดกับศัลยแพทย์ตกแต่ง

จะรู้ได้อย่างไรว่าศัลยแพทย์ผ่านการรับรองหรือไม่?

ป้ายสัญลักษณ์ต่างๆส่วนใหญ่ จะเป็นภาษาเกาหลี จึงเป็นการยากที่จะแยกแยะว่าศัลยแพทย์คนนั้นได้รับการรับรองหรือไม่ จากการดูจากป้ายชื่อหรือเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว

สิ่งสำคัญคือ จะต้องถามระหว่างการให้คำปรึกษาว่าศัลยแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดนั้นเป็นแพทย์ที่ได้รับการรับรองหรือไม่ และคุณสามารถค้นหาชื่อแพทย์ได้ในเว็บไซต์
http://www.prskorea.co.kr/ ซึ่งเป็น portal web สำหรับศัลยแพทย์พลาสติกเกาหลี ดังนั้นหากศัลยแพทย์ได้รับการรับรอง คุณจะสามารถพบรายชื่อของพวกเขาได้ที่นี่

PRS Korea

คุณสามารถค้นหาชื่อศัลยแพทย์ โรงพยาบาล JW ทั้งหมด ได้ที่เว็บไซต์นี้

  • Dr. Suh, Man koon
  • Dr. Seul, Chul Hwan
  • Dr. Choi, Hong Lim
  • Dr. Lee, Seung Jong
  • Dr. Kang, Hong dae
  • Dr. Kim, Yeon Jun

ฉันหรือผู้ดูแลสามารถดูกล้องวงจรปิด ระหว่างผ่าตัดได้หรือไม่?

ปัจจุบันผู้ป่วยต่างชาติหลายราย มักได้ยินเกี่ยวกับ ‘shadow doctors’ และต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการผ่าตัดโดยแพทย์ที่พวกเขาไม่รู้จัก

‘Shadow doctor’ เป็นคำที่ใช้สำหรับแพทย์ที่ดำเนินการผ่าตัดแทนศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียง โดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว เพราะชื่อเสียงที่ไม่ดี หรือขาดประสบการณ์ แต่การใช้ ‘Shadow doctor’ ทำให้สถานพยาบาลได้รับประโยชน์มากมาย

  • คลีนิคมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น เพราะแพทย์ที่มีชื่อเสียงมีเวลาเพื่อให้คำปรึกษาผู้ป่วย
  • สามารถดำเนินการผ่าตัดได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า และคลีนิคไม่มีการเก็บเงินมัดจำ เพื่อจองคิวผ่าตัด ทำให้สามารถเปลี่ยนคิวได้ตามต้องการ

หากมองในอีกมุมหนึ่ง สิ่งนี้อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสะดวกสบายและปลอดภัย เนื่องจากพวกเขาสามารถเลือกเวลาผ่าตัดได้ตามต้องการ หลังจากที่ปรึกษากับแพทย์ ด้วยประโยชน์เหล่านี้ทำให้สถานพยาบาลจำนวนมาก ยังคงใช้ระบบนี้ต่อไป ก่อนที่ฉันจะมาทำงานที่ JW ฉันเคยศัลยกรรมกับคลีนิคอื่นมาก่อน แม้ว่าฉันเองเป็นคนเกาหลีแท้ๆก็ยังเคยเจอประสบการณ์ ‘Shadow doctor’ เช่นกัน ดังนั้นการถามและตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัย
ก่อนตัดสินใจผ่าตัด จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ไม่มี shadow doctor ที่โรงพยาบาล JW

โรงพยาบาล JW มีการบันทึกการดำเนินการในทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันแม้อุบัติเหตุเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้น และผู้ป่วยหรือผู้ดูแลสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาที่ JW

มีล่ามประจำหรือไม่?

การแปลทางการแพทย์นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นการมีนักแปลมืออาชีพประจำอยู่ที่โรงพยาบาลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แม้ว่าคุณจะอยู่ในประเทศของตัวเองก็ตาม แต่ก็เป็นการยากที่จะเข้าใจศัพท์และขั้นตอนต่างๆทางการแพทย์ หากไม่เคยศึกษามาก่อน สิ่งนี้อาจนำไปสู่ความไม่พึงพอใจหลังผ่าตัด หรือการดำเนินการที่ผิดพลาด เนื่องมาจากการสื่อสารและการแปลที่ผิดพลาด

นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจพบกับเอเจนซี่ผิดกฎหมาย เมื่อพยายามจ้างล่าม โดยผู้ป่วยอาจถูกเอเจนซี่หรือล่ามผิดกฏหมาย ชักนำไปยังคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากเอเจนซี่หรือล่ามเหล่านี้ได้ค่านายหน้าจากทางคลีนิค ดังนั้นการมีล่ามประจำอยู่ที่สถานพยาบาลก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

ที่โรงพยาบาล JW เรามีล่ามให้บริการมากถึง 7 ภาษา และล่ามทุกคนผ่านการฝึกฝนและเทรนจากศัลยแพทย์โดยตรง เพื่อให้สามารถให้คำปรึกษาและแปลได้อย่างมืออาชีพ

จดหมายขอบคุณจากผู้ป่วย ที่ใช้บริการโรงพยาบาล JW

คลิกที่นี่ เพื่อกรอกแบบฟอร์มปรึกษาออนไลน์

หรือ Line Official: @jwthailand / คลิก http://nav.cx/lAOUlG

เรามีการใช้คุกกี้เพื่อให้คุณทำสิ่งต่างๆบนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น คุณสามารถจัดการหรือปิดการใช้งานคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว.
ยอมรับตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

GDPR