ฉันคิดเรื่องการศัลยกรรมมานานมาก ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดในปี 2015 นี้!
ฉันได้ทำการหาข้อมูลมากมายก่อนที่จะเดินทางไปเกาหลี และฉันคิดว่าทุกคนควรหาข้อมูลให้มากก่อนที่จะตัดสินใจศัลยกรรมเช่นเดียวกันค่ะ เพื่อที่จะได้หาแพทย์และสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ เหมาะสมกับปัญหาและสิ่งที่คุณต้องการ สิ่งที่ช่วยฉันได้มากเลยคือบล็อกเกอร์ที่เขียนแชร์ประสบการณ์ศัลยกรรมของพวกเขา ซึ่งฉันก็จะแชร์เรื่องราวของฉันเช่นกัน เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆต่อไป ฉันมักจะอ่านประสบการณ์ของบล็อกเกอร์ชาวเอเชีย โดยเฉพาะจากสิงคโปร์ เนื่องจากเราเป็นคนเอเชียเหมือนกัน เพราะฉะนั้นปัญหาและสภาพผิวต่างๆ จะใกล้เคียงกัน
ทำไมถึงอยากศัลยกรรมจมูก?
ฉันคิดว่าเป็นความของแม่ฉันด้วยนะ ที่มักจะชอบขำจมูกของฉัน ตั้งแต่ฉันเริ่มจำความได้ประมาณ 4-5 ขวบ 5555555! เพราะฉันมีจมูกกว้าง แบน และรูจมูกใหญ่
เหมือนจมูกของแม่เลยล่ะค่ะ พอถูกล้อมากๆ ตอน 5 ขวบ ฉันก็เริ่มเอาไม้หนีบมาหนีบจมูก เพราะหวังว่ามันจะทำให้ดั้งของฉันโด่งขึ้น (ตอนเด็กๆทุกคนก็เคยมีเรื่องน่าอายแบบนี้ใช่ไหมคะ 555) ตั้งแต่นั้นมาพอเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ฉันจึงเริ่มมีความคิดที่อยากทำจมูกค่ะ
เพื่อนสนิทและครอบครัวต่างถามฉันเป็นเสียงเดียวกับเลยว่า “ทำไมกระทันหันนักล่ะ?” ฉันต้องพยายามบอกพวกเขาว่ามันไม่ใช่เรื่องกระทันหัน เรื่องนี้ฉันคิดมาอย่างถี่ถ้วนและตัดสินใจดีแล้ว
ฉันเคยลองฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มความสูงของดั้ง และผลของมันก็ดีมากๆ แต่ฉันต้องเคยเติมตลอดทุกๆปี เพราะผลของมันไม่ถาวร
รูปด้านล่างนี้ถ่ายก่อนที่ฉันจะฉีดฟิลเลอร์
สิ่งที่ฉันต้องการแก้ไขที่สุดคือ “ดั้งที่แบน”
ฐา่นจมูกกว้าง, ปลายจมูกใหญ่ (ฉันคอนทัวร์จมูกแล้วนะคะ >_<”’)
มีหลายๆคนที่บอกกับฉันว่า ฉันไม่ควรทำศัลยกรรม ควรจะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ฉันอยากศัลยกรรมมานานมากและรู้ว่ามันสามารถช่วยให้ฉันได้สิ่งที่ต้องการได้ ตราบใดที่ฉันรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ทำไมฉันจะไม่ทำล่ะ? ครอบครัวของฉันก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เมื่อฉันบอกว่าฉันจะทำจมูก พวกเขาบอกแค่ให้หาหมอที่ดีๆ จะได้ไม่ผิดหวัง
พวกเขาเข้าใจฉันเป็นอย่างดี และครอบครัวของฉันเหมือนกับ Addams Family (การ์ตูนอเมริกัน) ที่ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ และเปิดกว้างมากๆ เหมือนที่พ่อเคยสอนฉันไว้ตอนเด็กๆว่า ‘ทำทุกอย่างที่อยากทำ ตราบใดที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน’, ‘ทุกอย่างที่เราทำจะมีผลกระทบตามมาเสมอ’ พวกเขาจึงไม่ห้ามฉันและบอกว่าสมัยนี้ศัลยกรรมพลากติกเป็นเรื่องปกติ และขอแค่ให้ฉันปลอดภัยก็พอ ฉันรักครอบครัวของฉันมากเลยค่ะ 5555
(นอกเรื่องนิด: ฉันไปสักมาใหม่ข้างลำตัว เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมื่อฉันกลับบ้าน ฉันก็เปิดเสื้อเพื่อที่จะโชว์ให้พ่อกับแม่ดู พวกเขาไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แค่บอกว่าสวยดี แล้วก็ชวนฉันคุยเรื่องละครเกาหลีที่พวกเขากำลังดูอยู่… นั่นแหละค่ะครอบครัวของฉัน น่ารักใช่ไหมคะ)
สามีของฉันหรอคะ? เขาเองก็สนับสนุนฉันเช่นเดียวกันค่ะ! เขาบอกว่าเขารู้ว่าฉันอยากทำจมูกมานานแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ห้ามฉันค่ะ เขาน่ารักมาก ถึงกับลางานเพื่อที่จะมาดูแลฉันที่เกาหลี แม้ว่าฉันจะบอกว่าฉันสามารถดูแลตัวเองได้ ขอบคุณคุณสามี Jon Jon มาก สำหรับทุกอย่างและดูแลฉันเป็นอย่างดี
และสำหรับคนที่ไม่พอใจหลังจากที่รู้ว่าฉันทำจมูกมา จุ๊ๆไว้นะคะ เก็บความเห็นด้านลบของคุณเอาไว้ในใจ เพราะตอนนี้ฉันมีความสุขมากค่ะ โอเค๊? ;p
ฉันไม่ได้กล้าหาญอะไรเลย ตราบใดที่คุณรู้ว่าคุณต้องการอะไร และตัดสินใจอย่างมีข้อมูล และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
ศัลยกรรมจมูกที่ไหน?
หลังจากหาข้อมูลมามาก ฉันก็ตัดสินใจทำศัลยกรรมที่ JW และพวกเขาก็ให้การสนับสนุนการทำศัลยกรรมฟรีให้กับฉัน แต่แม้ว่าจะเป็นการศัลยกรรมฟรีแต่มันใจได้เลยว่า ทุกความเห็นของฉันจะเป็นเรื่องจริงและไม่ลำเอียงอย่างแน่นอน!
Facebook: https://www.facebook.com/jwplasticsurgerykorea
Blog: http://jwbeautykorea.blogspot.sg
Youtube: https://www.youtube.com/JWplasticsurgeryKOR
ที่อยู่:
3F Shamshin building, 598-6, Shinsadong, Gangnamgu, Seoul
(Apgujung Station(line 3, orange line), exit #3)
JW เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของเกาหลี และฉันสามารถมั่นใจได้ว่าฉันจะปลอดภัย ฉันดูรูปก่อน-หลังศัลยกรรมของโรงพยาบาลหลายแห่งและฉันชอบผลงานของ JW ที่สุด!
ฉันเจาะจงต้องการทำจมูกกับ ดร.ซอมันกุน
คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลแพทย์เพิ่มเติม: https://th.jwbeauty.net/doctor/man-koon-suh/
อันนี้เป็นรูปจมูกที่ฉันต้องการ ที่ฉันเซฟไปให้คุณหมอซอดูค่ะ
Omg แองเจล่าเบบี้… เธอสวยมากจริงๆค่ะ
ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
หลังจากส่งข้อความถึงเพื่อนๆพลาสติกของฉัน (ฉันเข้าร่วมแก๊งศัลยกรรมพลาสติกและเราเรียกตัวเองว่า plastic babies ค่ะ 55555… พวกเขาต้องฆ่าฉันแน่ๆ…) และขอคำแนะนำจากพวกเขา นี่เป็นสิ่งที่ฉันเตรียมตัวก่อนผ่าตัดค่ะ
1) ดื่มน้ำสับปะรดเยอะๆ
ฉันเคยอ่านเจอมาว่าน้ำสับปะรดมีส่วนช่วยในการลดอาการบวมหลังผ่าตัดได้ ฉันไม่สามารถเตรียมทำน้ำสับปะรดสดเองได้ตลอดเวลา ดังนั้นฉันจึงไปหาซื้อน้ำสับปะรด 100% จากซูเปอร์มาร์เก็ต และเริ่มดื่มก่อนเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์ ฉันไม่แน่ใจว่ามันสามารถช่วยได้จริงไหม แต่น้ำผลไม้นั้นดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว มันก็เป็นการดีที่ฉันจะดื่มและทานของที่มีประโยชน์ใช่ไหมคะ ฉันซื้อยี่ห้อ “Just Juice” นะคะ ถ้าคุณอยากรู้
2) กระดาษเปียก
หลังศัลยกรรมคุณจะไม่สามารถล้างหน้าได้ เพราะจะมีไหมเย็บแผลและผ้าพันอยู่ เพราะฉะนั้นกระดาษเปียกจะช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดหน้าได้ ในระหว่างก่อนตัดไหม ฉันซื้อกระดาษเปียก Dettol เพราะแค่ชื่อแบรนด์นี้ก็หมายถึงการฆ่าเชื้อแล้วค่ะ 5555
3) คอตตอนบัต
สำหรับทำความสะอาดแผลและทายาหากจำเป็น ที่จริงแล้วฉันลืมเอามันมา สามีของฉันเลยต้องออกไปซื้อให้จากร้านสะดวกซื้อ!
4) คิดบวกเข้าไว้
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ นำความคิดบวกติดตัวไปด้วยค่ะ!
และนี่คือพาร์ทแรกของการเดินทางของฉันค่ะ ฉันจะแบ่งเล่าเรื่องราวแต่ละส่วนออกไปในแต่ละพาร์ทนะคะ ต่อไปฉันจะเล่าเกี่ยวกับการปรึกษา, การผ่าตัด, การติดตามผล และอัพเดทหน้าปัจจุบันให้ชมกันค่ะ
Posted by Cyndi Soh
http://blog.myfatpocket.com/xinzz/2015/02/04/jw-plastic-surgery-part-1-pre-surgery/